02-6934424   advanceclinic01@gmail.com    

Thread Lift

ร้อยไหม

ร้อยไหม คืออะไร?
การร้อยไหม คือ เทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่ไม่กระชับ หย่อนคล้อย ให้กลับมากระชับ เต่งตึง เข้ารูป รวมทั้ง สามารถช่วยในเรื่องของการปรับโครงหน้า หรือแก้ปัญหาเฉพาะจุด ด้วยการนำเส้นไหมชนิดพิเศษมาร้อยเข้าใบบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม ซึ่งทิศทางการร้อยของเส้นไหมที่สานกันเป็นร่างแห จะทำให้เกิดแรงตึง แรงยกกระชับในชั้นผิวหนัง ใบหน้าจึงดูเต่งตึง ยกกระชับขึ้นหลังการร้อยไหม โดยเห็นผลครั้งแรกหลังทำภายใน 1- 2 อาทิตย์ และเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นในอีก 1-2 เดือนถัดมา วิธีนี้ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่มีแผลขนาดใหญ่ อาจมีรอยเข็มเล็กๆ เท่านั้น หลังทำจึงไม่ต้องพักฟื้น ล้างหน้า แต่งหน้า ทาครีมได้ตามปกติ แต่อาจมีรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็จะค่อยๆ ลดเลือนหายไป

การร้อยไหม เหมาะกับใคร?
ถ้าปัญหาความงามเกิดได้กับทุกวัย การร้อยไหม ก็เหมาะกับทุกวัยเช่นกัน เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นสาววัยรุ่น หรืออายุมากขึ้น คุณสามารถร้อยไหมเพื่อกระชับผิวได้เช่นเดียวกัน นอกจากเรื่องอายุแล้ว ผู้ที่ประสพปัญหาโครงหน้าไม่สวย ไม่เข้ารูป ผิวหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณกังวลกับปัญหาเหล่านั้นหรือไม่

การร้อยไหม มีกี่ประเภท? มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร?
การร้อยไหม จะแบ่งความแตกต่าง โดยขึ้นอยู่กับไหมที่ใช้ ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด คือ

1. ไหม Aptos threads หรือ Feather-Lift ไหมชนิดนี้เป็นไหมที่ไม่ละลาย (monofiliment material – “polypropylene”) มีลักษณะเป็นก้างปลา ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพราะมักเกิดปัญหา เมื่อใช้ไปเป็นระยะนานๆ ตัวก้างปลามักจะหัก ทำให้ผิวให้ผิวหน้าที่เคยตึง กระชับ กลับมาหย่อนคล้อยลงได้อีก หรือ อาจมีแง่งไหมโผล่ออกจากผิว ทำให้ต้องไปผ่าเอาออก

2. ไหมทอง หรือ Gold Thread เป็นการนำไหมที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ขนาดประมาณเส้นผม ร้อยเป็นลักษณะโครงตาข่ายในชั้นผิวหนัง ซึ่งไหมทองจะช่วยกระตุ้มการสร้างคลอราเจนและผังพืดใต้ชั้นผิวได้ดี  แต่การร้อยไหม โดยใช้ไหมทอง ก็ข้อจำกัด คือ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และ หลังร้อยไหมแล้ว ต้องหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์บางตัว เพราะเลเซอร์บางตัวอาจทำให้ไหมทองขาดได้ และไม่เหมาะในผู้ที่แพ้โลหะ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย เมื่อเกิดการแพ้แล้ว อาจต้องรักษาโดยการผ่าตัด ข้อจำกัดอีกข้อ คือ ไหมทอง สามารถอยู่ในร่างกายเราได้ 8 – 15 ปี เลยทีเดียว ซึ่งถือว่านานมาก ถ้าคุณ กังวลเรื่องสารตกค้าง ก็ควรเลี่ยงวิธีนี้จะดีกว่า

3. ไหม PDO (polydioxanone) หรือไหมละลาย ข้อดีคือ ไหมละลายสามรถละลาย หายไปเอง ภายใน 6-8 เดือน แต่ช่วยกระชับผิว ได้ 2-3 ปี ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง ไหมละลายเป็นไหมที่ใช้ในการเย็บกล้ามเนื้อหัวใจ และหลอดเลือด ดังนั้นโอกาสแพ้เกือบ 0% ซึ่งน้อยมาก และการร้อยไหมชนิดนี้ ราคาจะถูก เห็นผลหลังทำทันที่ 20 – 30% จากนั้นต้องรอ 6 – 8 สัปดาห์ เพื่อเห็นผลเต็มที่ ข้อดีอีกข้อ คือ หลังจากร้อยไหมเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถไปทำงานได้เลย หรือหากมีรอยช้ำบ้าง สามารถทาแป้ง หรือใช้คอนซีลเลอร์ปิดทับได้เลย